วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

แมนยูฯ 3-2 ลิเวอร์พูล





ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ (ศึกวันแดงเดือด)

วัน อาทิตย์ ที่ 19 กันยายน 2553



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3:2 ลิเวอร์พูล



สนาม : โอลด์แทร็ฟฟอร์ด
ผู้ตัดสิน : ฮาร์เวิร์ท เวบบ์
เวลาเตะ : 19.30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1 (101)

ผู้ทำประตู : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ [น.42] [น.59] [น.84] สตีเว่น เจอร์ราร์ด [น.63] [น.69]



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป๋มากจากเกมลีกนัดล่าสุด! พลาดคว้า 3 คะแนนบุกไปโดน เอฟเวอร์ตัน กด 2 ประตูไล่ตีเสมอช่วงท้ายเก็บได้เพียงคะแนนเดียว เกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ก็ทำได้เพียงเสมอกับ เรนเจอร์ แบบไร้สกอร์

ในส่วนของตัวผู้เล่น อันโตนิโอ วาเลนเซีย บาดเจ็บข้อหักต้องพักอย่างน้อยถึงเดือนกุมภาพันธ์ ไม่มีชื่อลงสนามแน่นอนแล้ว เกมด้านข้างหน้าที่จึงตกเป็นของ นานี่ ขณะที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยืนยันว่าจะส่ง เบอร์บาตอฟ ลงยืนเป็นกองหน้าคู่กับ เวย์น รูนีย์ โดยจะให้ เนมานย่า วิดิช สวมปลอกแขนกัปตันทีม

ลิเวอร์พูล เล่นด้วยความมั่นใจ เกมเมื่อกลางสัปดาห์ในศึก ยูโรป้า ลีก เปิดบ้านเอาชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ มาได้ 4:1 ส่วนในลีก 2 เกมหลังสุดในลีกที่พบกับ เวสต์บรอมวิช และ เบอร์มิงแฮม ทีมสามารถรักษาคลีนชีตโดยไม่เสียประตู

ผู้เล่นตัวหลักที่ไม่ได้ลงสนามเมื่อกลางสัปดาห์ทั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เกล็น จอห์นสัน จะกลับมามีชื่อลงสนามออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง ในรายของ เดิร์ก เคาท์ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ต้องพักต่อไป

เริ่มเกมครึ่งแรกแมนฯยูเป็นฝายได้เขี่ยบอลเริ่มเล่นเจ้าบ้านได้ทักทายก่อนจากลูกเปิดทางกราบซ้ายของ ปาทริค เอวร่า วางยาวมาหน้าประตูให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ แต่โขกไม่ถนัดโดนผู้เล่นกองหลังเบียดไว้

นาที 5 แมนฯยูเป็นฝ่ายที่ได้บุกมากกว่า ไรอัน กิ๊กส์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายวางยาวมาหน้าประตู เนมานย่า วิดิช ได้เทกตัวขึ้นโขก บอลโด่งข้ามคานออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ่น

10 นาทีผ่านไปเกมของลิเวอร์พลูยังพาบอลขึ้นหน้าไม่ได้ มาถึงนาที 15 หลุยส์ นานี่ พาบอลขึ้นมาทางขวาเลี้ยงบอลจี้เข้าหาเขตโทษแต่มุมแคบไม่มีจังหวะยิงเลยไหลบอลเข้ากลางให้เวย์น รูนี่ย์ ได้วิ่งเข้ามาซัดบอลพุ่งไปติดผู้เล่นลิเวอร์พลู แต่ยังมาเข้าเท้าของ หลุยส์ นานี่ ได้ซัดแต่น่าผิดหวังบอลหลุดเสาสองออกหลังไป

นาที 20 พอล สโคลส์ มีโอกาสส่องจากแถวสอง บอลเหินข้ามคานออกหลังไป อีก 5 นาทีต่อมา"หงส์แดง"ได้มีโอกาสเตะมุมเป็นครั้งแรกลิเวอร์พลูเล่นสั้นจ่ายไปแถวสองให้ เกล็น จอห์นสัน ได้ลากตัดเข้ากลางแล้ววัดเต็มข้อบอลหลุดเสาสองออกหลังไป

นาที 30 เฟอร์นานโด ตอร์เรส เกือบได้ส้มหล่นจากการรับลูกเก็บตกจากการสกัดบอลที่ผู้เล่นลิเวอร์พลูบอลตกมาในเขตโทษแมนฯยูแต่โดน เนมานย่า วิดิชกับจอห์น โอเชียเข้ามาสกัดได้ทัน

"ปีศาจแดง"มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1:0 ในนาที 42 จากจังหวะที่ ไรอัน กิ๊กส์ เปิดบอลจากลูกเตะมุมวางยาวมาหน้าประตูบริเวณเขตโทษ ตอร์เรส ยืนประกบ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อยู่แต่ยังสามารถสบัดโขกได้บอลตุงตาข่าย

นาที 43 เวย์น รูนี่ย์ ได้มีโอกาสยิงไกลจากนอกกรอบแต่บอลเฉียดเสาออกหลังไป ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ จึ่งทำให้จบครึ่งแรก แมนฯยู นำ ลิเวอร์พูล 1:0

ครึ่งหลัง

แมนฯยูได้ลุ้นในนาที 48 ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จ่ายบอลไปทางกราบซ้ายให้ หลุยส์ นานี่ ได้ลักไก่ซัดไกล จากนอกกรอบบอลชนเสาสนั่นหวิดได้ประตูขึ้นนำ

นาที 51 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เกือบได้สมหล่นจากลูกสกัดบอลลอยตกมาในเขตโทษลิเวอร์พูลแต่ โฆเซ่ เรน่า เข้ามารับบอลได้ทัน

นาที 59 แมนฯยู มาได้ประตูหนีไปเป็น 2:0 จากลูกที่ หลุยส์ นานี่ วางบอลยาวมาจากกราบขวาลอยมาหน้าประตู ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ พักบอลด้วยเข่า ก่อน กลับหลังยิงบอลพุ่งชนใต้คานเข้าประตูไปสุดสวย

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีขึ้นมาเป็น 2:1 นาที 63 จากลูกที่ จอห์นนี่ อีแวนส์ ไปเสียบ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ในจุดโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกที่จุดโทษทันที สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมเป็นคนซัดจุดโทษและก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวังบอลตุงตาข่าย

นาที 69 "หงส์แดง"มาได้ประตูตีเสมอเป็น 2:2 จนได้จากลูกฟรีคิกตรงกลางประตูจากจังหวะที่ จอห์น โอเชีย ไปทำฟาล์ว ตอร์เรส และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นคนซัดฟรีคิกบอลพุ่งทะลุกำแพงเสียบตาข่าย

แมนฯยูมาได้ประตูหนีไปเป็น 3:2 ในนาที 84 ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ วางบอลยาวให้มาหน้าประตูให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ โขกเข้าประตูไปไม่เหลือทำประตูที่สามของตัวเองจนได้

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ ทั้งสองทีมยังเปิดเกมเข้าหากัน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสทำประตูกันได้จะแจ้ง กรรมการเป่าหมดเวลาครึ่งหลัง จบเกม"ศึกแดงเดือด" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดเฉือนลิเวอร์พูล 3:2

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมที่ลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
กองหลัง : จอห์นนี่ อีแวนส์, เนมานย่า วิดิช, จอห์น โอเชีย, ปาทริค เอวร่า
กองกลาง : ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, หลุยส์ นานี่
กองหน้า : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนี่ย์

สำรอง : โทมัส คุสแซ็ค , ไมเคิล โอเว่น ,อันแดร์สัน ,ดาร์รอน กิ๊บสัน ,เฟเดริโก้ มาเคด้า ,คริส สมอลลิ่ง

กุนซือ : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน


ลิเวอร์พูล : ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : โฆเซ่ เรน่า
กองหลัง : เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้
กองกลาง : ราอูล ไมเรเลส, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มักซี่ โรดริเกซ, โจ โคล, คริสเตียน โพลเซ่น
กองหน้า : เฟอร์นานโด ตอร์เรส

สำรอง : แบร็ด โจนส์,ดาเนียล แอ็กเกอร์ ,มิลาน โยวาโนวิช, โซติริส คีร์เกียกอส , ลูคัส เลวา,ไรอัน บาเบล, ดาวิด เอ็นก็อก

กุนซือ : รอย ฮ็อดจ์สัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น